พรีเมียร์ลีกกลับมาแล้ว โค้งสุดท้ายกับการตัดสิน ทั้งแชมป์ และทีมที่ตกชั้น

พรีเมียร์ลีกกลับมาแล้ว โค้งสุดท้ายกับการตัดสิน ทั้งแชมป์ และทีมที่ตกชั้น

พรีเมียร์ลีก (Premier League) กลับมาอีกครั้งหลังจากหยุดพักเบรคทีมชาติสองสัปดาห์ และขณะนี้สถานการณ์ทั้งหัวตารางและท้ายตารางเริ่มชัดเจนมากขึ้น ทีมที่จะได้แชมป์และทีมที่จะตกชั้นกำลังจะถูกตัดสินในอีกไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้า ณ จุดนี้ ลิเวอร์พูล (Liverpool) ภายใต้การนำของ อาร์เน สล็อต (Arne Slot) นำโด่งเป็นจ่าฝูงด้วยคะแนน 70 แต้ม ห่างจากอันดับสองอย่าง อาร์เซนอล (Arsenal) ถึง 12 คะแนน ส่วนทางด้านท้ายตาราง ทั้งสามทีมที่เพิ่งเลื่อนชั้นขึ้นมาอย่าง เซาแธมป์ตัน (Southampton), อิปสวิช (Ipswich) และ เลสเตอร์ (Leicester) ต่างติดกลุ่มท้ายตารางและมีแนวโน้มที่จะต้องกลับลงไปเล่นใน แชมเปี้ยนชิพ (Championship) ในฤดูกาลหน้า เมื่อพิจารณาจากคะแนนและจำนวนนัดที่เหลือ หลายคนมองว่าเป็นเพียงเรื่องของ “เมื่อไหร่ ไม่ใช่ว่าจะเกิดขึ้นหรือไม่” สำหรับการตัดสินแชมป์และการตกชั้น แต่คำถามสำคัญคือเมื่อไหร่ทุกอย่างถึงจะรู้ผล ตารางบอล ลิเวอร์พูลต้องกาอีกกี่คะแนนเพื่อคว้าแชมป์? ปัจจุบัน ลิเวอร์พูล มีคะแนน 70 แต้ม และคู่แข่งที่ใกล้ชิดที่สุดอย่าง อาร์เซนอล สามารถทำแต้มสูงสุดได้เพียง 85 คะแนนหากชนะทั้ง 9 นัดที่เหลือ นั่นหมายความว่า “หงส์แดง” ต้องการเพียง 16 คะแนนจาก 27 คะแนนที่เหลือเพื่อคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีกสมัยที่สองและเป็นแชมป์ลีกสูงสุดครั้งที่ 20 เท่ากับสถิติ แม้กระทั่ง 15 คะแนนก็อาจเพียงพอ เนื่องจากลิเวอร์พูลมีผลต่างประตูที่เหนือกว่า อาร์เซนอล อย่างมาก (ปัจจุบัน +42 เทียบกับ +29) จริง ๆ แล้ว 

 

ด้วยความเหนือกว่าในเรื่องผลต่างประตู ทีมของ สล็อต อาจต้องการเพียงชัยชนะ 4 นัด หากหนึ่งในนั้นเป็นการเอาชนะ “ปืนใหญ่” เพื่อคว้าแชมป์

 

อาร์เซนอล เพิ่งเอาชนะ เชลซี (Chelsea) ที่สนาม เอมิเรตส์ (Emirates Stadium) ในเกมตกค้างก่อนเบรคทีมชาติ ชัยชนะนั้นทำให้คะแนนห่างระหว่าง ลิเวอร์พูล กับ อาร์เซนอล ลดลงจาก 15 เหลือ 12 คะแนน อย่างไรก็ตาม ในแง่ของวันที่ทีมของ สล็อต จะสามารถคว้าแชมป์ได้ การเปลี่ยนแปลงนี้แทบไม่มีผลกระทบ วันเร็วที่สุดที่ ลิเวอร์พูล สามารถคว้าแชมป์ลีกครั้งที่ 20 คือวันที่ 13 เมษายน เมื่อพวกเขาเล่นกับ เวสต์แฮม (West Ham) ที่สนาม แอนฟิลด์ (Anfield) สำหรับสถานการณ์นั้นที่จะเกิดขึ้น อาร์เซนอล ต้องแพ้สองนัดถัดไปกับ ฟูลแฮม (Fulham) และ เอฟเวอร์ตัน (Everton) โดยที่ ลิเวอร์พูล ต้องชนะ เอฟเวอร์ตัน และ ฟูลแฮม ในช่วงเวลาเดียวกัน ตารางบอล ซึ่งจะทำให้ อาร์เซนอล ตามหลัง ลิเวอร์พูล 18 คะแนน โดยที่เหลือคะแนนให้แข่งขัน 21 แต้ม นอกจากนี้ หากเบรนท์ฟอร์ด (Brentford) ชนะ อาร์เซนอล ในวันที่ 12 เมษายน จะทำให้ “ปืนใหญ่” ตามหลัง 18 คะแนนโดยมีคะแนนเหลือให้แข่งขัน 18 แต้ม ทำให้ ลิเวอร์พูล ต้องการเพียง 1 คะแนนจากเกมกับ “ขุนค้อน” ในวันที่ 13 เมษายน เพื่อคว้าแชมป์ ตามสถิติจาก โอปต้า (Opta) อาร์เซนอล มีโอกาสเพียง 0.8% ในการคว้าแชมป์ ในขณะที่ ลิเวอร์พูล มีโอกาสสูงถึง 99.2% โดยพิจารณาจากตำแหน่งและเกมที่เหลือ

 

สถานการณ์ของบรรดาทีมส่วนล่างของตารางในการหนีตกชั้น เริ่มจะชัดเจนขึ้นเรื่อยๆ

 

เมื่อมองไปที่อีกด้านของตาราง ทั้งสามทีมที่เพิ่งเลื่อนชั้นขึ้นมาจาก แชมเปี้ยนชิพ กำลังเผชิญกับความท้าทายครั้งใหญ่ เซาแธมป์ตัน, อิปสวิช และ เลสเตอร์ ต่างมีคะแนนห่างจากโซนปลอดภัยค่อนข้างมาก ซึ่งทำให้โอกาสในการอยู่รอดในพรีเมียร์ลีกลดน้อยลงทุกขณะ โดยเฉพาะ เซาแธมป์ตัน ที่อยู่อันดับสุดท้ายของตาราง มีแนวโน้มที่จะเป็นทีมแรกที่ถูกยืนยันการตกชั้น ถ้าผลการแข่งขันในช่วงสัปดาห์ข้างหน้าไม่เป็นใจ พวกเขาอาจต้องลงไปเล่นใน แชมเปี้ยนชิพ ในฤดูกาลหน้าอย่างแน่นอน การเตรียมพร้อมของทีมหลังเบรคทีมชาติ หลังจากเบรคทีมชาติ หลายทีมในพรีเมียร์ลีกต้องเผชิญกับความท้าทายในการรักษาฟอร์มและความฟิต ผู้จัดการทีมต่าง ๆ ต้องจัดการกับนักเตะที่กลับมาจากการรับใช้ทีมชาติ บางคนอาจมีอาการบาดเจ็บหรือเหนื่อยล้า ในขณะที่บางคนอาจได้รับแรงกระตุ้นจากผลงานที่ดีในระดับนานาชาติ ลิเวอร์พูล ได้รับข่าวดีเมื่อ โมฮาเหม็ด ซาลาห์ (Mohamed Salah) และ อลิสซอน เบ็คเกอร์ (Alisson Becker) กลับมาฝึกซ้อมอย่างเต็มรูปแบบหลังจากมีปัญหาอาการบาดเจ็บ ส่วน อาร์เซนอล ยังคงกังวลเกี่ยวกับความฟิตของ บูกาโย่ ซาก้า (Bukayo Saka) ที่ถอนตัวจากทีมชาติอังกฤษระหว่างเบรค

โปรแกรมที่เหลือและความสำคัญ โปรแกรมการแข่งขันที่เหลือมีความสำคัญอย่างยิ่งต่อการตัดสินแชมป์และการตกชั้น ลิเวอร์พูล มีคิวพบกับ อาร์เซนอล ในวันที่ 6 เมษายน ที่แอนฟิลด์ ซึ่งอาจเป็นเกมตัดสินสำหรับการแข่งขันชิงแชมป์ในฤดูกาลนี้ หากลิเวอร์พูลสามารถเอาชนะได้ในเกมนี้ โอกาสในการคว้าแชมป์จะเพิ่มขึ้นอย่างมาก สำหรับทีมที่อยู่ในโซนตกชั้น แต่ละเกมเปรียบเสมือน “นัดชิงชนะเลิศ” โดยเฉพาะเมื่อพวกเขาต้องเผชิญหน้ากับทีมที่อยู่ในระดับใกล้เคียงกัน การแข่งขันระหว่าง เซาแธมป์ตัน กับ อิปสวิช ในวันที่ 20 เมษายน จะเป็นเกมที่สำคัญมากสำหรับทั้งสองทีม เพราะอาจเป็นโอกาสสุดท้ายในการเพิ่มโอกาสการอยู่รอด เมื่อพรีเมียร์ลีกกลับมาหลังจากเบรคทีมชาติ ทุกสายตาจะจับจ้องไปที่การตัดสินแชมป์และการตกชั้น ลิเวอร์พูล อยู่ในตำแหน่งที่แข็งแกร่งในการคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีกสมัยที่สอง โดยมีโอกาสสูงถึง 99.2% ตามการคำนวณทางสถิติ ในขณะที่ เซาแธมป์ตัน, อิปสวิช และ เลสเตอร์ ต้องดิ้นรนอย่างหนักเพื่อหลีกเลี่ยงการตกชั้น แฟนบอลทั่วโลกกำลังรอคอยที่จะเห็นว่าทีมใดจะสามารถทำสิ่งที่เหลือเชื่อได้ในช่วงที่เหลือของฤดูกาล ไม่ว่าจะเป็นการไล่ตามแชมป์ที่ดูเหมือนจะเป็นไปไม่ได้ของ อาร์เซนอล หรือการหนีตกชั้นอย่างน่าอัศจรรย์ของทีมท้ายตาราง ทุกเกมจากนี้ไปจะมีความสำคัญและความตื่นเต้นที่เพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ จนกว่าจะถึงนัดสุดท้ายของฤดูกาล ฤดูกาลพรีเมียร์ลีก 2023/24 กำลังจะเข้าสู่ช่วงสุดท้ายที่สำคัญ และทุกทีมต้องทุ่มเททุกอย่างเพื่อบรรลุเป้าหมายของตน ไม่ว่าจะเป็นการคว้าแชมป์ การเข้ารอบยูฟ่า แชมเปียนส์ลีก (UEFA Champions League) หรือการอยู่รอดในลีกสูงสุดของอังกฤษ

 

admin Avatar

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *

No comments to show.