แมนเชสเตอร์ ซิตี้ กลับมาแสดงให้เห็นถึงศักยภาพอันน่าเกรงขามอีกครั้ง ในเกมที่พวกเขาถล่ม นิวคาสเซิล ยูไนเต็ด 4-0 ณ สนาม เอทิฮัด สเตเดียม การแสดงศักยภาพในครั้งนี้ไม่เพียงแต่เป็นชัยชนะธรรมดา แต่ยังเป็นการประกาศศักดาของทีมแชมป์เก่าอีกด้วย โอมาร์ มาร์มูช (Omar Marmoush) แสดงให้เห็นถึงคุณค่าของค่าตัว 60 ล้านปอนด์ ด้วยการแสดงฟอร์มอันยอดเยี่ยม พลังและความกระตือรือร้นของเขาส่งผลให้เพื่อนร่วมทีมกลับมามีชีวิตชีวาอีกครั้ง หลังจากที่หลายคนดูเหนื่อยล้าในช่วงที่ผ่านมา อิลคาย กุนโดกัน (Ilkay Gundogan) กลับมาคึกคักอีกครั้ง ฟิล โฟเดน (Phil Foden) แสดงให้เห็นถึงทักษะการส่งบอลที่แม่นยำ ริโก้ เลวิส (Rico Lewis) โชว์การป้องกันที่แข็งแกร่ง และผู้มาใหม่อย่าง นิโกลัส กอนซาเลซ (Nicolas Gonzalez) ที่ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า (Pep Guardiola) เรียกว่า “มินิ โรดรี” ก็ทำผลงานได้น่าประทับใจ ความสำเร็จในครั้งนี้เป็นชัยชนะในบ้านที่ดีที่สุดของ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ใน พรีเมียร์ลีก ฤดูกาลนี้ และเป็นชัยชนะที่ยิ่งใหญ่ที่สุดนับตั้งแต่เดือนพฤษภาคม 2024 ซึ่งแสดงให้เห็นว่าพวกเขายังคงมีความแข็งแกร่งและพร้อมที่จะสู้ในทุกรายการ

ความสำเร็จนี้มาในจังหวะที่เหมาะสม เนื่องจากในอีก 4 วันข้างหน้า แมนเชสเตอร์ ซิตี้ จะต้องเผชิญหน้ากับ เรอัล มาดริด ในรายการ ยูฟ่า แชมเปียนส์ลีก รอบเพลย์ออฟ

โดยพวกเขาจำเป็นต้องพลิกสถานการณ์หลังเสียเปรียบจากนัดแรก ในส่วนของทีมอื่นๆ เชลซี กลับมาตกเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์อีกครั้งหลังพ่ายแพ้ต่อ ไบรท์ตัน แบบขาดลอย ขณะที่ นูโน่ เอสปิริโต้ ซานโต้  (Nuno Espirito Santo) ได้รับบทเรียนอันเจ็บปวดในความพ่ายแพ้ของ น็อตติ้งแฮม ฟอเรสต์ ต่อ ฟูแล่ม ไรอัน คริสตี้ (Ryan Christie) แสดงให้เห็นถึงปรัชญาการทำทีมของ อันโดนี่ อิราโอลา (Andoni Iraola) กุนซือ บอร์นมัธ ที่ได้รับการยกย่องว่า “พิเศษ” ส่วน อเล็กซ์ พาล์มเมอร์ (Alex Palmer) ก็ทำผลงานได้ยอดเยี่ยมในการเปิดตัวกับ อิปสวิช ทาวน์ ในขณะที่ เวสต์แฮม ยูไนเต็ด konduangdee ภายใต้การนำของ เกรแฮม พอตเตอร์ (Graham Potter) ยังคงดิ้นรนกับฟอร์มการเล่นที่ไม่สม่ำเสมอ ชัยชนะครั้งนี้ของ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ไม่เพียงแต่เป็นการตอบคำถามของผู้ที่สงสัยในความมุ่งมั่นของพวกเขาในการต่อสู้เพื่อพื้นที่ท็อปโฟร์เท่านั้น แต่ยังแสดงให้เห็นว่าพวกเขายังคงเป็นหนึ่งในทีมที่แข็งแกร่งที่สุดของ พรีเมียร์ลีก และพร้อมที่จะสู้เพื่อความสำเร็จในทุกรายการที่พวกเขาลงแข่งขัน

มาร์มูช โชว์ฝีเท้าระดับเวิลด์คลาส หลังทำแฮตทริก ภายในเวลา 33 นาที

ดาวยิงชาวอียิปต์ที่เพิ่งย้ายมาร่วมทีมในช่วงตลาดซื้อขายเดือนมกราคม แสดงให้เห็นถึงคุณค่าการลงทุนของ แมนฯ ซิตี้ ด้วยการทำแฮตทริกสุดงดงามภายในเวลาเพียง 14 นาที นับเป็นหนึ่งในการแสดงที่น่าประทับใจที่สุดของฤดูกาลนี้ โดยประตูแรกเกิดขึ้นในนาทีที่ 19 จากการส่งบอลยาวของผู้รักษาประตู เอแดร์สัน (Ederson) ระยะ 60 หลา และ มาร์มูช จบสกอร์อย่างเยือกเย็นด้วยการชิพบอลข้าม มาร์ติน ดูบราฟก้า (Martin Dubravka) ความสำเร็จของ แมนฯ ซิตี้ ในเกมนี้ไม่ได้มาจาก มาร์มูช เพียงคนเดียว konduangdee แต่เป็นผลงานของทั้งทีม โดยเฉพาะ ซาวินโญ่ (Savinho) ที่แสดงให้เห็นถึงวิสัยทัศน์ในการเล่นที่ยอดเยี่ยม การจ่ายบอลที่แม่นยำ และความสามารถในการสร้างโอกาสทำประตู นอกจากนี้ เจมส์ แมคอาที (James Mcatee) ที่ลงมาเป็นตัวสำรองก็สามารถทำประตูที่สี่ได้อย่างสวยงาม แม้จะเป็นชัยชนะที่ยิ่งใหญ่ แต่ แมนฯ ซิตี้ ก็ต้องเผชิญกับความกังวลเมื่อ แอร์ลิง ฮาแลนด์ (Erling Haaland) มีอาการบาดเจ็บที่เข่าและต้องถูกเปลี่ยนตัวออก อย่างไรก็ตาม เป๊ป กวาร์ดิโอล่า (Pep Guardiola) ได้ให้ความมั่นใจว่าอาการบาดเจ็บไม่ได้รุนแรงอย่างที่กังวล ซึ่งเป็นข่าวดีสำหรับทีมที่กำลังจะต้องเดินทางไปเยือน เรอัล มาดริด (Real Madrid) ในเกม ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก รอบเพลย์ออฟ เลกที่สอง ชัยชนะครั้งนี้ส่งผลให้ แมนฯ ซิตี้ ขยับขึ้นไปอยู่อันดับ 4 ของตาราง พรีเมียร์ ลีก ซึ่งเป็นตำแหน่งที่จะได้สิทธิ์เข้าร่วมการแข่งขัน แชมเปียนส์ ลีก (Champions League) ในฤดูกาลหน้า ในขณะที่ นิวคาสเซิล ร่วงลงไปอยู่อันดับ 7 แม้จะเพิ่งทำผลงานได้ดีด้วยการชนะ 4 เกมเยือนติดต่อกันก่อนหน้านี้  เอ็ดดี้ ฮาว (Eddie Howe) กุนซือของ นิวคาสเซิล แสดงความผิดหวังอย่างมากกับผลงานของทีม โดยกล่าวว่าเป็น “เรื่องที่เจ็บปวดที่จะดู” ในทางตรงกันข้าม เป๊ป กวาร์ดิโอล่า แสดงความพอใจกับผลงานของลูกทีม โดยเฉพาะการแสดงความสามารถของ มาร์มูช ที่กำลังปรับตัวเข้ากับทีมได้อย่างรวดเร็ว การแข่งขันครั้งนี้แสดงให้เห็นถึงความแตกต่างของฟอร์มการเล่นระหว่างสองทีมอย่างชัดเจน แมนฯ ซิตี้ แสดงให้เห็นถึงความแข็งแกร่งและความลึกของขุมกำลัง โดยเฉพาะการที่นักเตะใหม่อย่าง มาร์มูช สามารถเข้ามาทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยม ในขณะที่ นิวคาสเซิล ต้องกลับไปทบทวนและปรับปรุงการเล่นอย่างมาก หากต้องการกลับมาลุ้นพื้นที่ยุโรปในช่วงท้ายฤดูกาล ชัยชนะครั้งนี้ยังเป็นการส่งสัญญาณที่ดีสำหรับ แมนฯ ซิตี้ ก่อนเกมสำคัญกับ เรอัล มาดริด ในกลางสัปดาห์หน้า แม้จะมีความกังวลเล็ก